ฝรั่งขาวหรือชาวคอเคเซียน (Caucasian) ต่อ # 12-06

ฝรั่งขาวหรือชาวคอเคเซียน (Caucasian) ต่อ
เมื่อกลางเดือนที่แล้ว สำนักงานสำรวจสำมะโนครัวประชากรสหรัฐ ฯ(The U.S. Census Bureau) ได้ออกประกาศว่า ในวันที่ 25 เดือนกุมภาพันธ์ ปีนี้ 2006เวลา 7:16 p.m. Eastern Standard Time ยอดประชากรของมนุษย์โลกรวมทั้งสิ้นจะมีเป็นจำนวน 6.5 พันล้านคน พร้อมทั้งให้การพยากรณ์ (Projections) ไว้ล่วงหน้าด้วยว่า นับจากวันนี้ไปอีกเพียงหกปีข้างหน้า คือเมื่อถึงวันที่ 18 เดือนตุลาคม 2012 เวลา 4:36 p.m. Eastern Daylight Time ยอดประชากรดังกล่าวนี้จะเพิ่มขึ้นไปอีกเป็นจำนวนห้าร้อยล้านคน ทำให้ยอดรวมของประชากรมนุษย์โลกในวันนั้นจะเป็น 7 พันล้านคนพอดี ๆ ทั้งนี้โดยถืออัตราการเกิดถัวเฉลี่ยเพียง 4.4 คน ต่อทุก ๆ หนึ่งวินาที
ข่าวดังกล่าวมาข้างต้นนี้ ย่อมถือได้ว่า เป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของพรรครีปับลิกันสหรัฐฯ ซึ่งมี ท่าน ยอร์จ ดับบริว บุช เป็นหัวหน้าพรรค โดยที่ท่านได้ยึดถือมติว่า “Pro-life” (โปร-ไล้ฟ) หรือถ้าจะแปลเป็นภาษาไทยก็ว่า “ชอบให้มีคนแยะ ๆ” เป็นเสมือนชูคบเพลิงเบิกทางให้ท่านเถลิงอำนาจได้อย่างทรนงองอาจเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้
ข้อดีของ “โปร-ไล้ฟ” ซึ่งสามารถเห็นได้ชัด ๆ ถนัดถนี่ ก็คือว่า ไม่ว่าท่านจะไปไหน หรืออยู่ที่ไหน ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะมีความเปล่าเปลี่ยว กลัวผี เพราะเมื่อท่านจะหันไปทิศใดก็จะเนืองแน่นไปด้วยฝูงชนผู้เป็นมิตร ให้ความสนิทสนมเป็นกันเอง พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือแก่ท่านทุกรูปแบบ ยิ่งนับวันนับคืนที่กำลังจะผ่านไป ชีวิตคนเราย่อมจะมีความหมาย มีค่ามากขึ้นอย่างน่าภาคภูมิใจที่ได้เกิดมาเป็นคน
แหล่งข่าวดังกล่าวได้ให้รายละเอียดต่อไปว่า ปัจจุบันทุกวันนี้ ยอดประชากรของโลกได้เพิ่มขึ้นมาเป็น “สี่เท่า” จากเดิมซึ่งมีเพียง 1.6 พันล้านคนเมื่อปี ค.ศ. 1900 หรือเมื่อหนึ่งร้อยปีเศษ ๆ ที่แล้วเท่านั้นเอง
การที่เป็นไปได้เช่นนี้ มิใช่เพราะผลบุญของท่านบุช ที่ท่าน “โปร-ไล้ฟ” เพียงไม่กี่ปีเท่านั้นเองหรอก แต่เป็นเพราะนับตั้งแต่สิ้นสงครามโลกที่สองเมื่อ พ.ศ. 2488 และองค์การสหประชาชาติได้จัดตั้งองค์การอนามัยโลก (The World Health Org. or WHO) ขึ้นมาในทันทีทันใดนั้น และได้ออกปฏิบัติงานทุกถิ่นฐานทั่วโลก ซึ่งผลอันตามมานั้นก็เป็นที่น่าสรรเสริญอย่างที่สุด เพราะสามารถขจัดโรคภัยไข้เจ็บ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรคระบาด ประเภท กาฬโรค ไข้ทรพิษหรือฝีดาษ ไข้รากสาด ไข้เหลือง อหิวาตกโรค คุดทะราด ฯลฯ ได้แทบจะสิ้นซาก ทำให้ผู้คนทั่วโลกอายุยืนนานมากขึ้น จากเดิมซึ่งถือถัวเฉลี่ยว่า 30 ปีเป็นหนึ่งชั่วอายุคน แต่เดี๋ยวนี้ผู้คนส่วนใหญ่สามารถปลอดจากโรคภัยไข้เจ็บและมีอายุยืนนานเกินกว่า 80 ปีเป็นทวีแถว
หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่า ความเจริญก้าวหน้าในด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทางด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ทำให้สมดุลของธรรมชาติพังย่อยยับไม่เหลือหลอแล้ว ผลที่กำลังเกิดขึ้นอย่างไม่สามารถจะมีอะไรมาหยุดยั้งได้ก็คือ “มนุษย์กำลังล้นโลก” นั่นเอง
แต่การณ์ที่กำลังเป็นอยู่นั้น กลายเป็นว่า กลุ่มประเทศที่พัฒนาก้าวหน้าไปแล้วซึ่งเป็นสังคมที่มีคนชั้นกลางเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ (สังคมรูปไข่) ซึ่งย่อมหมายถึงประเทศของชาวผิวขาวหรือคอเคเซียน กลับมีจำนวนประชากรถดถอยลงเรื่อย ๆ และทางฝ่ายตรงข้ามคือ บรรดาประเทศที่ยังด้อยพัฒนาซึ่งประชากรส่วนใหญ่มากกว่ากึ่งยังยากจนหรือผู้ที่มีรายได้น้อยเป็นฐานของสังคม (สังคมรูปปิระมิด) และไม่สู้จะสนใจที่แสวงหาความสุขในรูปอื่น ๆ นอกจากเอาแต่เล่นจ้ำจี้อย่างเดียว ผลก็คือ “โปร-ไล้ฟ”ได้ลูกออกมาเป็นครอก ๆ และเตรียมตัวเป็นผู้ครองโลกต่อไปในวันหน้าได้อย่างมิพึงต้องสงสัยแต่ประการใดเลย
ขอให้อยู่เย็นเป็นสุข
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

No comments:

Post a Comment