สำนวนอเมริกันในหมวดอักษร “D” (ต่อ) # 10-08

สำนวนอเมริกันในหมวดอักษร “D” (ต่อ)
พจนานุกรมเล่มใหญ่ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 ซึ่งมีน้ำหนักกว่า 2 กิโลกรัม ให้คำจำกัดความสำหรับคำว่า “ภาษา” คือถ้อยคำที่ใช้พูดหรือเขียนเพื่อสื่อความของชนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เช่น ภาษาไทย ภาษาจีน ภาษาฝรั่ง ฯลฯ
ถัดไปจากนั้น ก็เป็นกล่าวถึงคำว่า ภาษาพูด (Spoken language) ภาษาเขียน (Written language) และตลาดของถ้อยคำที่มนุษย์เราใช้ก็แตกลูกแตกหลานเรื่อยเปื่อยออกไปเป็นภาษาท่าทาง (Body language) ภาษามือหรือภาษาใบ้ (Sign language) ภาษาวิบัติหรือภาษาตลาด (Slang) ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม วัตถุประสงค์หรือหลักการของคอลัมน์นี้อยู่ที่เพียงการแนะนำสำนวนภาษาอังกฤษแบบอเมริกันในยุคปัจจุบัน และเน้นหนักไปที่การใช้ถ้อยคำให้ถูกต้อง เพื่อประโยชน์ทั้งทางตรงและอ้อมแก่บรรดาท่านผู้ที่สนใจติดตามโดยแท้นั่นเอง
ความหมายของคำว่า “Dead” หรือ “Death” ซึ่งเป็นเรื่องของการตายและรวมไปถึงความตายในถ้อยคำซึ่งเป็นสำนวนในรูปแบบและลักษณะต่าง ๆ ดังได้แนะนำไปพอสมควรแล้วนั้น การใช้ถ้อยคำที่ถูกต้องยังเป็นเรื่องที่จะต้องพิถีพิถันออกไปอีกเป็นอันมาก อาทิเช่นว่า ถ้าเราจะเอ่ยถึงคำว่า “คนตาย” แล้วใช้คำในภาษาอังกฤษว่า “A dead man” หรือ “the dead man” แต่ในบางครั้งบางสถานการณ์ เขาก็นิยมใช้คำว่า “the deceased” (ดี’ซีสท) โดยเฉพาะอย่างยิ่งเราจะใช้คำนี้ในใบมรณบัตรเมื่อกล่าวถึงผู้ตาย นอกไปจากนี้แล้ว ยังมีอีกคำหนึ่งคือ “Decedent” (ดี’เซดเด้นท์) ซึ่งมักจะเป็นคำที่ใช้ในทางกฎหมายแพ่งและมรดกอีกด้วย
จารีตประเพณีและวัฒนธรรมของคนชาติอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกที่เราเรียกว่า “คนตะวันตก” หรือ “The westerners” นั้น เป็นเรื่องที่น่าสนใจอยู่มิใช่น้อย เพราะเรากล่าวได้ว่าจารีตและวัฒนธรรมตามแบบฉบับของพวกเขามีผู้ประพฤติปฏิบัติอยู่กว่าครึ่งค่อนของจำนวนมนุษย์โลก
ศพของผู้ตายนั้น เขาใช้คำว่า “The body” หรือ “The remains”
และโดยทั่วไปแล้ว พิธีเกี่ยวกับการงานศพนั้น เขาเรียกรวม ๆ กันไปว่า “Funeral rites” (ฟิวเนอร์ราล ไร้ทส์) และทั้งนี้ถ้าเรามีความผูกพันอยู่กับผู้ตายบ้างแล้ว เราก็อาจถามว่า “When or where is his or her funeral?” ก็ได้
คำถามดังกล่าวเป็นการซักถามถึงสถานที่ตั้งศพ (“Funeral home” หรือ “Funeral parlor”) เพื่อเตรียมแต่งศพ ฯลฯ ก่อนนำไปสุสาน (“Cemetery” หรือ “Churchyard” หรือ “Graveyard”)
เขาประกอบพิธีทางศาสนาเพื่อไว้อาลัยและรำลึกถึงผู้ตาย ซึ่งเรียกว่า “A memorial service” และโดยทั่วไปแล้วในการประกอบพิธีนี้ไม่ว่าในโบสถ์หรือสุสานแห่งใดแห่งหนึ่งของพวกเขา ก็จะมีการกล่าวคำไว้อาลัยและสดุดีผู้ตาย ซึ่งเขาเรียกว่า “Eulogy” (ยู’ละยี) ส่วนผู้ที่ทำหน้าที่ได้รับการมอบหมายให้กล่าวคำไว้อาลัยนั้นก็เรียกว่า “Eulogist” (ยู’ละยีสท์) ถ้อยคำไว้อาลัยซึ่งไม่ว่าจะหมายถึงคำพูดหรือข้อเขียนก็ตาม เขาเรียกว่า“Eulogium” (ยู’ละเจี่ยม) และมีคำว่า “Eulogize” (ยู’ละไจ๊ซ) ใช้เป็นคำกริยา อย่างเช่นในประโยคที่ว่า
“Smith was eulogized as a hero.” นายสมิทธ์ได้รับคำกล่าวไว้อาลัยในงานศพของเขาเยี่ยงวีรบุรุษคนหนึ่งเลยทีเดียว
คำว่า “Dead ” และ “Death” นั้น เป็นอันว่าพอกันที ขอเลิกแค่นี้ดีกว่า เพราะข้างหน้ายังมีคำที่น่าเรียนรู้ น่าสนใจและติดตามอีกบานตะไทเลยครับ
ขอให้อยู่เย็นเป็นสุข

No comments:

Post a Comment