สำนวนอเมริกันในหมวดอักษร “D” (ต่อ) # 25-08

สำนวนอเมริกันในหมวดอักษร “D” (ต่อ)
DO, DID, DONE
ต่อจากที่ได้เริ่มต้นไปแล้วในสัปดาห์ที่แล้ว คำว่า “Do” นี้มีความหมายและความสำคัญในภาษาอังกฤษแท้ รวมทั้งภาษามะกัน เป็นอย่างมากสุด ๆ เลยทีเดียว นอกจากจะเป็นคำกริยาตัวแท้แล้ว คำว่า “Do” นี้ยังทำหน้าที่เป็นกริยาช่วย (Auxiliary verb) ในรูปแบบต่าง ๆ ด้วยอีกอย่างน่าเหน็ดเหนื่อยอีกด้วย
คำว่า “Auxiliary” นี้แปลว่า “ช่วย” และเป็นคำที่น่าศึกษาให้เข้าใจได้อย่างลึกซึ้งเพื่อที่จะนำไปใช้ได้อย่างถูกต้อง แต่ในที่นี้ ขอให้คำความเข้าใจกันไว้แต่เพียงว่าเมื่อใดเห็นคำนี้ก็ให้เข้าใจไว้ในขั้นต้นว่าเป็นเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับการช่วยเหลือไว้ก่อน ส่วน ณ ที่นี้ จะกล่าวถึงเพียงที่ “Do” ทำหน้าที่เป็นกริยาช่วย แต่ประการเดียวเท่านั้น
ในภาษาอังกฤษและมะกันนั้น บรรดาคำที่จัดไว้ว่าเป็น “กริยาช่วย” ก็มีดังต่อไปนี้คือ “Be,” “Have,” “Do,” “Can,” และ “Will”
ความสำคัญของกริยาช่วยก็คือ เมื่อได้ถูกนำเข้าไปประกอบเป็นประโยคต่าง ๆ เข้าแล้ว ก็จะช่วยเพิ่มความชัดเจนขึ้นมาให้กับความหมายของประโยคต่าง ๆ เหล่านั้น เป็นต้นว่า บ่งให้เห็นถึง กาลเวลา (Tense) ว่าเป็นเรื่องในปัจจุบัน (Present) หรืออดีต (Past) หรืออนาคต (Future) ก็ดี หรือช่วยคำให้ประโยคนั้น ๆ เป็นประโยคคำถาม (Questions) และยังสามารถแสดงถึงความเป็นไปได้ หรือความปรารถนา (Mood) ได้อีกด้วย
ความจริงข้อหนึ่งในเรื่องของภาษา ซึ่งเราต้องยอมรับอย่างดุษฎีนั้นก็คือ ภาษาอังกฤษ (ตั่งเดิม) เป็นภาษามนุษย์เพียงหนึ่งในไม่กี่ภาษาที่มีประวัติ์เก่าแก่เป็นเวลานับได้หลายพันปี และได้ผ่านการขัดเกลา ตลอดทั้งเพิ่มถ้อยคำขึ้นไปเป็นหมื่นเป็นแสน รวมไปถึงสำนวนมากมายซึ่งถ้าจะเรียนการให้ครบถ้วนขบวนความก็คงจะหัวเป็นสิงโตตรุษจีน ไม่ต้องพูดถึงว่า เรียนกันไม่รู้จบ
แต่ผลนั้นคือ ทำให้ภาษาของเขาสามารถผูกขึ้นใช้เป็นประโยคที่มีความหมายชัดเจน ไม่กำกวมหรือเคลือบคลุม และแน่ละ สำหรับผู้ที่สามารถใช้ถ้อยคำของเขาได้อย่างถูกต้องเท่านั้น ถึงจะทำเช่นนั้นได้
อนึ่ง ตามที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้นว่าคำที่ถือว่าเป็นกริยาช่วย คือ “Be,” “Have,” “Do,” “Can,” Will” นั้น ดูประหนึ่งว่ายังมิหนำใจ เพราะทุกคำที่กล่าวมานี้ยังสามารถผันออกไปได้อีก เป็นว่า
“B” (verb to be) = Am, are, was, were. “Have” = had & Have. “Do” - did และ “Will” = would ฯลฯ และที่น่าปวดหัวขึ้นไปอีกสำหรับผู้ที่ใช้อังกฤษเป็นภาษาที่สอง (English as a Second Language – ESL) ก็คือว่า เมื่อใดถึงจะใช้ “Verb to be” หรือ “Verb to do” แต่สำหรับผู้ที่เกิดมาโดยมีภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่มาตั้งแต่อ้อนแต่ออกนั้น ภาษามันซึมทราบเข้าสมองไปเองด้วยความเคยชิน กว่าจะโตเป็นผู้ใหญ่ก็สามารถจำขึ้นใจไปเองได้โดยไม่ลำบากยากเข็นเลย
แต่ก็อีกนั่นแหละ ถึงแม้ว่าจะมีภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ แต่ไม่ได้เล่าเรียนเพิ่มเติม มันก็จัดได้ว่ามีภูมิทางภาษาแค่ “หางอึ่ง” หรือเด็กชั้นประถมเท่านั้นเอง
อีตานี้ สำหรับท่านที่เรียนอังกฤษเป็นภาษาที่สอง (ESL) แล้ว จะรู้ว่าตอนไหนใช้ “Verb to be” หรือ “Verb to do” นั้น ปัญหานี้ต้องขอผลัดไปงวดหน้า จึงค่อยว่ากันต่อไป
ขอให้อยู่เย็นเป็นสุข

No comments:

Post a Comment