To Burn # 22-05

To Burn = ทู เบิร์น
To burn (v) = ทู เบิร์น เป็นคำกริยาซึ่งตามปกติก็แปลว่า เผาให้ไหม้ หรือทำให้ลุกเป็นไฟ ฯลฯ ในความหมายทำนองเดียวกัน หรือแม้แต่ใช้เป็นคำกริยาที่แสดงออกซึ่งอารมณ์ในลักษณะโกรธจัด หรือเดือดดาลในอารมณ์ก็ย่อมได้ สุดแต่การสร้างประโยค แต่กริยาคำนี้ถ้านำมาประกอบเป็นวลีก็กลายเป็นคำสำนวนซึ่งมีความหมายเฉพาะตัวออกไป และน่าเรียนรู้กันพอสมควร อาทิเช่น
“Burn a hole in one’s pocket.” ซึ่งถ้าแปลตรงตัวก็หมายความว่ามีไฟมาเผากระเป๋าให้เป็นรู แต่เป็นคำสำนวนที่หมายความว่า มีเงินในกระเป๋าแล้วมันร้อนรุ่มกลุ้มอกกลุ้มใจหรือคันคะเยอ อยู่ไม่เป็นสุข อยากออกไปช้อปปิ้งหรือผลาญมันเสียเลยโดยไม่สามารถรีรออยู่ได้แม้แต่ชั่วครู่ชั่วยามเลยทีเดียว
และในความหมายภาษาอังกฤษก็แปลว่า “To make one want to buy something quickly.” ทั้งนี้ ถ้าจะนำมาใช้ในประโยคสมมุติก็ได้อย่างเช่น “Money is burning a hole in my pocket.” คือ มีสตางค์อยู่ในกระเป๋าแล้วมันทำให้ฉันรุ่มร้อนเหลือแสน หรือในประโยคว่า “The dollar that Jim got for his birthday is burning a hole in his pocket, and he hurried to a store.” คือดอลลาร์ซึ่งจิมได้มาเมื่อวันเกิดของเขานั้นกำลังสร้างความร้อนรุ่มกลุ้มใจให้เขา ถึงขนาดที่ต้องรีบออกไปจับจ่ายใช้มันอย่างที่จะรอช้าไม่ได้เลยทีเดียว
วลีต่อไปก็คือ “Burn one’s bridges” = to make a decision that one cannot change; remove or destroy all the ways one can return from a position; or do something that makes it impossible to go back to a previous position. แปลตรงตัวก็เป็นว่าเผาสะพานที่ตนต้องใช้เดินเหินอยู่ก่อนนั้นมันเสีย แต่มันเป็นสำนวนซึ่งหมายความว่าทำให้หมดทางเลือก ไม่สามารถย้อนทางไปสู่ที่เดิมซึ่งเป็นการทำให้ตนเองต้องจนแต้มหรือสิ้นหนทางไปเสียเปล่า ๆ
เราใช้สำนวนนี้ได้ในประโยคตัวอย่างเช่น “Think carefully before you resign -- if you do that you will have burnt your bridges.” คือ “คิดเสียให้ดีน๊ะเธอก่อนที่จะตัดสินใจลาออกไป เพราะเมื่อเธอทำเช่นนั้นแล้วก็จะย้อนกลับเข้ามาของานนั้นทำใหม่อีกไม่ได้แล้วแน่นอน”
อนึ่งบางครั้งหรือบางคนเขาก็ใช้คำว่า“Boats”มาแทนคำว่า “Bridges” ก็ได้ และถือว่ามีความหมายเหมือนกันหรือเช่นเดียวกันนั่นเอง
สัปดาห์หน้าจะแนะนำต่อไปถึงสำนวนอังกฤษที่มีคำว่า “Burn one’s fingers” ซึ่งแปลตัวตรงว่า “เอานิ้วของตัวไปโดนไฟไหม้เข้าแล้ว” แต่เป็นสำนวนหมายความว่าได้ทำพลาดจนเจ็บกระดองใจไปครั้งหนึ่งแล้วและเข็ดขยาดไม่ต้องการเจ็บช้ำเป็นยกสอง หรือ “เจ็บแล้วต้องจำ” ก็ยังได้
“ขอให้อยู่เย็นเป็นสุข”

No comments:

Post a Comment