ENGLISH VOCABULARY (ต่อ) # 31-05

ENGLISH VOCABULARY (ต่อ)

คอลัมน์นี้ได้ว่างเว้นจากการแนะนำเรื่องสำนวนภาษาอังกฤษอเมริกันไปเสียหลายสัปดาห์ แต่กลับไปกล่าวถึงเรื่องการเรียนภาษาอังกฤษโดยพื้นฐานทั่ว ๆ ไป ซึ่งผู้เขียนเห็นว่ามีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าเรื่องสำนวน ฯ
และถ้าจะว่ากันโดยแท้จริงแล้ว การเรียนมุ่งลงไปถึงพื้นฐานนั้น น่าจะมีน้ำหนักมากกว่าทางด้านสำนวนเสียด้วยซ้ำ กล่าวคือ การใช้ภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นภาษาที่สองของคนไทยผู้มิได้เกิดมาในสหรัฐ ฯ หรือประเทศซึ่งใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาพื้นเมืองของเขานั้น เพียงแต่จะอาศัยว่า “ย่อมรู้เองเป็นเอง” เช่นภาษาซึ่งดั้งเดิม (Mother tongue – โปรดสังเกตว่าไม่ต้องมี ‘s ต่อท้ายคำว่า Mother) นั้นย่อมไม่ได้
ยิ่งไปกว่านั้น คนพื้นบ้านผู้ใช้ภาษาพื้นเมือง แต่ถ้าเขามิได้ใช้เวลาและพยายามเรียนรู้ในภาษาของเขาเองนั้นอย่างจริงจังแล้ว ก็เป็นได้แต่เพียง “ผู้ด้อยการศึกษา” อยู่เท่านั้นเอง
แต่ทว่า ถ้าเราสามารถเรียนรู้จนทำตัวให้เก่งใน “ภาษาที่สอง” ของเราได้ ก็น่าเป็นการสร้างความภาคภูมิใจให้แก่ตนเอง (Self Esteem - เซลฟ’ เอสทีม) ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่จะช่วยเสริมสร้างสุขภาพกายและสุขภาพจิต ให้ไปสู่ความเป็นผู้มีลาภอันประเสริฐ หรือ “อโรคยาปรมาลาภา” และจะยังผลให้อยู่เย็นเป็นสุขและอายุมั่นขวัญยืนยิ่ง ๆ ขึ้นไปมิใช่หรือ
แล้วจะต้องทำอย่างไรถึงจะเก่งในภาษาที่สองหรือภาษาอังกฤษดั่งว่านี้ได้เล่า
ความเก่งกล้าในเรื่องใด ๆ ก็ตาม ย่อมได้มาจากการเรียนรู้มามากและมีความชำนิชำนาญในการใช้ศิลปศาสตร์นั้นมาก ๆ พร้อมกันไปอีกด้วย
บัณฑิตไทยมากท่านที่ได้เรียนจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดังของเมืองไทยมีความรู้ในศัพท์แสงภาษาอังกฤษ (English vocabulary) มากมาย แต่ขาด “ทักษะ หรือ Skills” ครั้นเมื่อมีโอกาสได้มาเรียนต่อในสหรัฐ ฯ ก็ “พูดไม่ออก ต้องนั่งกรอกหน้า” ไปอยู่หลายเพลาเลยทีเดียว
อย่างไรก็ดี การที่จะเก่งในภาษาอังกฤษได้นั้น ความจำเป็นในเรื่องการเรียนรู้ศัพท์แสง และต้องรู้จักศัพท์แสงให้ได้มาก ๆ (How to increase your English vocabulary) ย่อมมีความสำคัญเป็นอันดับแรก
การที่จะทำให้รู้จักศัพท์ได้มาก ๆ ท่านก็จะต้องอ่านให้มาก ๆ และฟังให้มาก ๆ อีกด้วย
และรู้จักและเข้าใจความหมายในศัพท์แสงเพียงอย่างเดียวยังไม่พอ ท่านจะต้องใช้ศัพท์แสงในให้มาก เพื่อให้เกิดความชำนาญ และคล่องปาก คล่องมือ ด้วยการสนทนา และฝึกขีดเขียนเพื่อนำศัพท์ต่าง ๆ ที่เรียนรู้มา ออกใช้ทุกบ่อย ๆ อีกด้วย
ความเป็นจริงประการหนึ่งในเรื่องศัพท์แสงของภาษาไทยและภาษาอังกฤษนั้นก็คือ จำนวนศัพท์ไทยนั้นมีอยู่น้อยนิด เมื่อเปรียบเทียบกับภาษาอังกฤษ ดังจะเห็นได้จากขนาดของพจนานุกรมไทย ซึ่งมีศัพท์ส่วนใหญ่เป็นภาษาแขก (ผมหมายถึงภาษาบาลีและสันสกฤต) เสียด้วยซ้ำ หากแต่ในภาษาอังกฤษนั้น เขามีพจนานุกรมเล่มใหญ่เล่มโต และสำหรับที่ใช้เพื่อการค้นคว้าอย่างจริงจังแล้ว ก็มีความหนาความใหญ่ สามารถนำมาใช้เป็นหมอนหนุนนอนได้อย่างสบาย ๆ เลยทีเดียว
แต่ท่านต้องไม่เบื่อ หรือขี้เกียจที่จะเปิด “ดิก” เพราะเมื่อท่านต้องการอะไรในชีวิตคนเรานั้น ท่านจะต้อง “ลงทุน” เพื่อหวังผลในวันหน้าครับ

คารม-คม-ระคาย (Quips & quotes)

 The person who looks up to God rarely looks down on people. ผู้ที่เอาแต่เงยหน้าขึ้นหาพระเจ้านั้น มักจะไม่เข้าใจในมนุษย์ด้วยกัน
 Some people have to carry their diplomas with them to prove they have a college education. คนเรานั้นมีบ้างที่ต้องแบกปริญญาบัตรติดตัวไปด้วยเสมอ เพื่อจะได้เป็นหลักฐานแสดงว่าฉันจบปริญญานะว๊อย
ขอให้อยู่เย็นเป็นสุข

No comments:

Post a Comment