Bring out; Bring to & Bring upon # 17-05

To bring out; Bring to & Bring upon

“To bring out” (ทำให้ปรากฏขึ้นได้ชัด หรือทำให้เป็นที่เห็นหรือแจ้งประจักษ์) สามารถใช้เป็นคำกริยาในความหมายดังประโยคตัวอย่างต่อไปนี้เช่น -
“John’s report brought out the foolishness of the new plan.” คือ “รายงานข่าวของจอห์นได้ทำให้เห็นได้ชัดถึงความเขลาเบาปัญญาของแผนการใหม่ที่ว่านั้น” หรือ
“Brushing will bring out the beauty of your hair.” คือ “การใช้แปรงจะทำให้ผมของคุณสวยงามสามารถให้เป็นที่เห็นแจ้งชัดได้ยิ่งขึ้น”
“The teacher’s coaching is bringing out a wonderful singing voice of great power and warmth.” คือ “การฝึกฝนของคุณครูกำลังช่วยทำให้เสียงของนักร้องอันทรงพลังและกล่อมใจได้อย่างน่าพิศวงนั้นเป็นที่ประจักษ์ชัดได้ดีจริง ๆ”

“To bring to” (เพียงสามคำสั้น ๆ นี้แต่มีความหมายกระจายออกไปได้หลายรูปแบบและหลายกระทงความ) ดังจะเห็นได้จากการใช้เป็นคำกริยาในความหมายที่แตกต่างกันออกไปได้มากมายดังประโยคตัวอย่างต่อไปนี้เช่น
“Smelling salts will often bring a fainting person to.” คือ “ยาดมที่ผสมเกลือชนิดหนึ่งนั้นมักจะช่วยให้คนที่กำลังเป็นลมอยู่นั้นสามารถกลับฟื้นคืนสติขึ้นมาได้”
“Reaching the pier, Jim brought the boat smartly to.” คือ “เมื่อเข้าถึงท่าจอดเรือนั้นแล้ว ตาจิมก็สามารถนำเรือเข้าจอดได้อย่างเรียบร้อยเลยทีเดียว”
“The change in law was slow in coming, and it took a disaster to bring it to pass.” คือ “การเปลี่ยนแปลงในกฏหมายนั้นไม่สู้จะเป็นที่สบอารมณ์ผู้คนกันเท่าใดนัก จนกระทั่งได้เกิดวินาศภัยขึ้นมาแล้วนั่นแหละจึงได้เป็นที่ยอมรับของประชาชนทั่วไปกันได้” ขอให้สังเกตว่า สำนวนนี้อยู่ที่คำว่า “Bring to pass” ซึ่งหมายความว่า “ยอมให้ผ่าน” คือเป็นที่ยอมรับกันได้
“The war won’t end until we bring the enemy to terms.” คือ “สงครามคงจะไม่เลิกลงไปจนกว่าเราจะสามารถทำให้ข้าศึกยอมรับเงื่อนไขของเราได้”
“To bring up or upon” ต่อจากนี้ เราก็มาถึงคำสุดท้ายของ ในสำนวนของคำกริยาที่ว่า to bring up ซึ่งแปลกันตรงไปตรงมาก็ได้ความว่า “นำขึ้นมา” แต่ก็สามารถเน้นออกไปได้หลายทิศทาง ตามประโยคตัวอย่างต่อไปนี้เช่น
“John gives much attention and thought to bringing up his children.” คือ “นายจอห์นทุ่มเทความสนใจและความคิดเป็นอย่างมากให้กับการเลี้ยงดูลูก ๆ ของเขา”
“Sammy brought the car up short when the light changed to red.” คือ “แซมมี่หยุดรถลงได้สนิทหน้าแนวเส้นกำหนดเมื่อสัญญาณไฟสีแดงขึ้นมา”
“At the class meeting, Bob brought up the idea of picnic.” คือ “ เมื่อมีการประชุมกันในห้องเรียนนั้น นายบ็อบได้หยิบยกข้อเสนอที่จะให้พากันออกเที่ยวนอกสถานที่และนำอาหารไปรับประทานกันด้วย ”

คารม-คม-ระคาย (Quips & quotes)

 Diplomacy is the art of letting someone else have your way. อันว่าวิธีการทูตนั้นคือศิลปะที่ยอมให้ใครต่อใครหันมาใช้วิธีการของท่าน
 When the candles are out all women are fair. หญิงทั้งหลายย่อมงามสรรพเมื่อดับเทียน

No comments:

Post a Comment